องค์การพิทักษ์รธน.จี้ผู้ตรวจการฯ แก้สลากฯราคาแพง-ล้างบางยี่ปั้ว

March 30, 2022 0 Comments

“รมว.ดีอีเอส” เผยขอคำสั่งศาล ปิดเว็บไซต์ “มังกรฟ้า” วันนี้ ยันขายสลากออนไลน์ได้แต่ต้องขายของจริง ด้าน”ศรีสุวรรณ” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ปมแก้หวยแพง หนุนล้างบางยี่ปั้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 29 มี.ค.65 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการทลายเว็บมังกรฟ้า ว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และทีมงาน ได้มาคุยกับทีมงานกระทรวงดีอีเอส เพื่อขอให้ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพื่อปิดเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเครือข่ายค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่หลอกลวงประชาชน เนื่องจากไม่มีสลากตามจำนวนที่ขายและขายเกินราคา โดยเท่าที่เรามีข้อมูลเบื้องต้นก็จะรวบรวมพยานหลักฐานส่งไปขอคำสั่งศาลเพื่อปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าวในวันนี้ ซึ่งเราไม่ได้ทำเฉพาะเว็บไซต์มังกรฟ้า แต่ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รวบรวมหลักฐานของทุกเว็บไซต์ที่มีความผิดในลักษณะเดียวกัน ก็จะทำเรื่องไปปิดให้หมด ทั้งนี้ขอเรียนไปยังพี่น้องประชาชนว่าการขาย สลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์สามารถทำได้ไม่ได้ผิดกฎหมายเหมือนกับการขายสินค้าออนไลน์ทั่วไป ไม่ได้มีข้อห้าม เพียงแต่ว่าเราต้องขายของจริงสลากที่มีโคต้าจริง อย่าไปขายในสิ่งที่เราไม่มีเพราะเป็นการหลอกหลวงประชาชนและอาจเข้าข่ายพ.ร.บ.การพนัน เนื่องจากทำตัวเป็นเจ้ามือรับแทงหวยเองในระบบออนไลน์

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีประมาณกี่เว็บไซต์ที่เข้าข่าย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปมาก่อนเท่าที่ดูก็มีหลายเว็บไซต์ที่ทำธุรกิจลักษณะนี้ ซึ่งต้องดูเป็นกรณีไปไม่ได้ปิดทุกเว็บหรือทุกคน

ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีที่ปรากฏว่ามีการค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ “หวย” กันในราคาที่แพงเกินไปกว่าราคาหน้าสลาก ว่า อันชี้ให้เห็นถึงกฎ หรือคำสั่ง หรือระเบียบวิธีการ หรือการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในการจัดจำหน่ายสลากฯ มีปัญหาก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน คนชอบซื้อหวย

ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่สะสมเรื้อรังมานาน ไม่มีรัฐบาลไหนแก้ได้ เปลี่ยนผอ.กองสลากฯคนแล้วคนเล่าก็สาระวนปัญหาอยู่ที่เดิม จนแทบจะเรียกว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่หลายคนอาจมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่จะแก้ไม่ได้ แต่คนแก้ปัญหาอาจ “เกิดความเกรงอก เกรงใจ” กับคนกลาง หรือ “ยี่ปั๊วรายใหญ่” มากกว่า ทำให้กระบวนการทั้งหมด “ถูกตัดตอน” ออกไป จนเกิดข้อสงสัยความสัมพันธ์ระหว่าง สนง.สลากฯกับ “ยี่ปั๊วรายใหญ่” อาจมีความสนิทสนมกันหรือไม่ อย่างไร แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าที่ผ่านมาระบบขายสลากฯมีการพึ่งพา “ยี่ปั๊วรายใหญ่” มาตลอด จากการเปิดประมูลให้นักธุรกิจเข้ามารับโควตา ก่อนที่คณะกรรมการสลากฯ มีมติยกเลิก 5 เสือกองสลากฯ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ค้ารายย่อยมาจองสลากฯแบบตรงทางระบบเอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ปัญหาก็วกกลับมาที่เดิมเพราะพวกยี่ปั้วไม่ยอมแพ้ โดยส่งนอมินีมาเป็นผู้ค้ารายย่อยแม้แต่การตั้งโต๊ะรับซื้อรวบชุดสลากไปขายได้อีกเหมือนเดิม ตัวอย่างที่เห็นเด่นชัดกรณีนายตำรวจท่านหนึ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จำนวน 30 ใบ รับเงินรางวัล 180 ล้านบาท เพราะการรวมชุดได้มากขนาดนี้ ต้องมีสลากฯ มารวมชนกันอย่างมหาศาลถึงจะทำแบบนี้ได้ ในระดับพ่อค้าขนาดเล็กๆ อย่างมากรวมชุดได้ 5-6 ใบ ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว คงไม่สามารถนำมาชนรวมกันเป็นชุดได้มากขนาดนี้แน่นอน นี่เป็นอีกเรื่องที่เป็นบทพิสูจน์ว่ายังมี “ยี่ปั๊วรายใหญ่มีอิทธิพลครอบงำ” ในตลาดสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ ใช่หรือไม่ เพราะทุกขั้นตอนทำให้สลากมีต้นทุนสูงขึ้น

“การที่รัฐบาลต้องตั้งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ตั้งแรมโบ้ ตั้งบิ๊กโจ๊ก และนายตำรวจต่างๆ มาไล่จับแพลตฟอร์มขายหวยออนไลน์ อาทิ มังกรฟ้า, สลากพลัส ฯลฯ และตัวแทนยี่ปั้วรายใหญ่ๆ อีกหลายกลุ่ม ที่เป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้ แม้จะเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ แต่อยากให้ทำอย่างจริงจังต่อเนื่อง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการขายหวยแพงมีจริง ตรงกันข้ามกับอดีตผู้บริหารกองสลากฯที่ออกมาพูดอยู่เสมอว่าไม่พบการขายหวยเกินราคา ซึ่งคนที่ไม่ยอมรับความจริงเยี่ยงนี้ไม่ควรเอาไว้ จึงต้องนำความมาร้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบและเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ หรือคำสั่ง หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานใดๆ ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อหยุดวงจรอุบาทว์เหล่านี้”

อ้างอิง
https://siamrath.co.th/economy